พุกาม งามสมคำร่ำลือ

REMINDING YOU: Bagan,Myanmar

เสน่ห์ของการ ท่องเที่ยวพุกาม นั้นอยู่ที่ความงดงามอลังการของซากความเจริญในอดีต วัดและเจดีย์ใหญ่ๆที่สำคัญๆบนถนนลาดยางเข้าไปถึงนั้นมีพระพุทธรูปและภาพวาดฝาผนังที่สวยงาม รวมทั้งเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางประวัติศาสตร์และตำนานมากมายจนจำกันแทบจะไม่หวาดไม่ไหว

เจดีย์บูพญา สร้างขึ้นช่วง 300 ปีหลังพุทธกาล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี ปัจจุบัน เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2518 เพราะเจดีย์องค์เก่านั้นได้พังทลายลงมาอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว
พระอึดอัด ในวิหารมนูหะ
เนินสันเขื่อนเป็นที่ยอดนิยมในการดูวิวมุมสูง
เจดีย์ชเวซิกองหลังฝนตก

และอีกความงดงามที่เหงาหงอยของศาสนสถานเล็กๆที่มีปริมาณมหาศาลที่หลบซ่อนตามทางเล็กๆที่ผนวกกับทิวทัศน์ที่แห้งแล้งจนเกือบจะเป็นทะเลทราย มันก็ก่อให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจไปอีกแบบ ซึ่งผู้ที่มากับกลุ่มทัวร์คงไม่ได้รับอรรถรสแบบนี้

ทางเลือกในการดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกแบบสงบๆยังพอมีอยู่ เนื่องด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีมวลมาก ทำให้การรับน้ำหนักของสิ่งปลูกสร้างอันเก่าแก่(ถึงจะผ่านการบูรณะมาแล้วก็ตามที บางแห่งเริ่มทรุดตัวเพราะการบูรณะที่ผิดๆเมื่อครั้งแผ่นดินไหวทำให้โครงสร้างเดิมไม่สามารถรับน้ำหนักวัสดุสมัยใหม่ที่พอกเข้าไปใหม่) หรือความซุ่มซ่ามของผู้เยี่ยมเยือนที่จะสร้างอันตรายให้กับตนเอง เพราะสถานที่ที่เราเหยียบย่ำกันขึ้นไป หลายที่ไม่ได้ถูกออกแบบให้คนจำนวนมากขึ้นไปเพื่อการนี้ ความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในแต่ละที่จึงมีมากขึ้น เนื่องจากตำแหน่งของการอนุญาตให้ขึ้นทางด้านบนวิหารหรือเจดีย์นั้นมีปริมาณที่สวนทางลดลง

บางที่ไม่สามารถใช้รถเข้ามาได้มีแต่ทางเล็กๆเท่านั้น
เคยบ้างไหมที่อยากหลงเข้าไปในที่ที่เป็นโบราณสถานอันรกร้าง พุกามช่วยท่านเรื่องนี้ได้ ขี่รถอีไบค์ไปมาแบบไม่สนแผนที่ เห็นเจดีย์อันไหนสูงๆใหญ่ๆก็ขี่ๆไป ทางเล็กทางน้อยทำให้หลงจริงอะไรจริง แต่ก็เพลิดเพลินอยู่ไม่น้อย
หลังฝนตกถนนเล็กๆที่ไม่ได้ลาดยางจะกลายเป็นโคลนทำให้ขับขี่ยานพหนะลำบากมาก
ฟ้าหลังฝน เข้ามาหลบฝนที่วัดแห่งนึง

หลายๆคนมาที่พุกามแล้วเกิดอาการเอือมระอากับเหล่าพ่อค้าแม่ขายที่คอยตามตื้อขายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยว เมื่อสินค้าที่มีมากมากอย่างล้นตลาดหรือไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อหา คนขายย่อมต้องทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อความอยู่รอด และความสำเร็จของผู้ขายที่ได้มาจากความอึดอัดใจของผู้ซื้อที่ส่วนมากจะจบลงด้วยความสงสารหรือไม่ก็ตัดความรำคาญ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะบั่นทอนความรู้สึกของคนที่มาเยือนและไม่ยั่งยืนในการประกอบอาชีพของพวกเขา ทั้งยังทำให้ความอ่อนโยนน่ารักที่จริงใจกลายเป็นยิ้มปลอมๆที่มากับความก้าวร้าวที่หลายๆที่ในโลกที่อุดมไปด้วยนักท่องเที่ยวจะเป็นอย่างนั้น

สาวๆดีใจกับดอกจำปาที่เราซื้อมาจากภูเขาโปปา
แม่ค้าที่หน้าวัดแห่งหนึ่งดีใจที่ได้ดอกจำปา
หุ่นกระบอกที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพกันมากกว่าจะซื้อหาเป็นของที่ระลึก

แต่สุดท้ายก็มาใจอ่อนกับเด็กน้อยที่ชื่อมูมู่ที่เอาภาพวาดฝีมือตัวเอง มาเร่ขาย ในตอนแรกสองจิตสองใจเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่เด็กต้องมาทำงานแบบนี้ การเติบโตไปพร้อมกับการบอกปัดในรูปแบบต่างๆนานาจากนักท่องเที่ยวย่อมไม่น่าจะเป็นเบ้าหลอมเยาชนที่ดีแน่ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มจากการที่นางลงมือวาดภาพแล้วเห็นประกายอะไรบางอย่างที่น่าพูดคุยด้วย จึงอุดหนุนภาพดังกล่าวมาหนึ่งภาพ ที่ตอบแทนด้วยขนมหนึ่งห่อกับเงินอีกเล็กน้อย

มูมู่ ขายภาพวาดฝีมือตนเอง
ภาพวาดฝีมือมูมู่

ทางเลือกที่เราเจอไม่สามารถระบุชื่อวัดหรือสถานที่ตั้งได้เพราะเนื่องจากอ่านไม่ออก(เขียนไว้เป็นภาษาพม่าเท่านั้น)และไม่มีอยู่ในแผนที่ และการเข้ามาก็ไม่ดูไม่ค่อยจะปลอดภัยนัก เพราะเป็นการรอดรั้วที่ถูกแหวกออกและภายในทางเดินขึ้นที่มืดสนิท ทางเข้าวัดนี้ค่อนข้างรกจนทำให้หลายคนไม่ได้ขับผ่านเข้ามามากนัก เมื่อเราขึ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีคนใจกล้าปีนตามขึ้นมาอีกสามคน จึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบสามารถดื่มด่ำกับสิ่งที่เห็นได้อย่างเต็มอิ่มอย่างที่ไม่มีสิ่งใดมารบกวน จนทำให้แอบลืมความกังวลตอนขากลับในเส้นทางที่เปลี่ยวแอบน่ากลัวไปเสียสนิทใจ

วัดเล็กๆที่สามารถขึ้นไปดูวิววิหารธัมมะยังจี
ทางเข้าดูจะผิดๆกฎหน่อยแหะๆ
ไม่ได้เป็นที่ที่ดีที่สุดแต่สงบเงียบมากที่นี่

อีกวันหลังจากที่รู้สึกอกหักกับการไปภูเขาโปปามา แต่ก็ได้มิตรภาพจากเพื่อนร่วมรถที่แชร์แท็กซี่ไปเทือกเขาดังกล่าวด้วยกัน เป็นชาวมาเลเซียหนึ่งคนกับคู่รักชาวอังกฤษอีกหนึ่งคู่ นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มากับทัวร์ส่วนใหญ่เมื่อพบปะกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆในพุกามก็มักจะสอบถามแลกเปลี่ยนข้อมูลกันถึงสถานที่ที่ดีในการชมพระอาทิตย์กัน เพราะมักจะได้พบกับประสบการณ์อันเลวร้ายจากการที่ตัดสินใจไปชมในสถานที่ยอดฮิต ทั้งจากปริมาณคนที่หนาแน่น การพูดคุยที่เสียงอาจจะดังเกินเลยไปหน่อย การใช้ซุปเปอร์ไฟฉายส่องไปมาเข้าหน้าเข้าตากันจนตาแทบบอด การใช้แฟรชถ่ายพระอาทิตย์ตก ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวหลายชาติที่ติดอันดับในบทสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์เชิงนินทา

ซึ่งหลังจากแยกย้ายกลับโรงแรม ทั้งหมดก็มารวมตัวกันอีกครั้งในสถานที่ที่เราได้มาเมื่อวาน ถึงแม้วันนี้คนจะมีมากกว่าวันก่อนแต่ตรงนี้ก็ยังยอดเยี่ยมอยู่ดี เคยไหมที่เมื่อเห็นอะไรที่มันสวยงามมากจนได้แต่อุทานว่าว้าวหรือโอ้เบาๆออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดจนเหมือนหายใจออกแต่ทางปากตลอดเวลา เมื่อธรรมชาติเคลื่อนตัวเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เสียงครางเบาๆดังกล่าวก็เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ทุกคนรวมทั้งเราก็ยังรู้สึกฟินกับที่แห่งนี้มาก อาาา อูววว โอววว สวยจริงๆ

นักท่องเที่ยวชาวพม่าคนนึงกำลังสวดมนต์ขณะที่พระอาทิตย์ตก
พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยจริงๆ

ตอนขากลับในตอนกลางคืน ถนนหนทางในพุกามสร้างความสับสนงงงวยมากเป็นพิเศษสำหรับคนที่เพิ่งมาเที่ยว การออกมาจากดงเจดีย์ที่อยู่ลึกและถนนไม่ดีในความมืดเป็นเรื่องไม่สนุก แถมที่พักราคาถูกจะแทรกอยู่ตามตรอกซอยต่างๆที่ไม่มีป้ายใดๆให้สังเกตุ จึงหลงวนไปมาอยู่หลายรอบ สุดท้ายแล้วได้น้องผู้หญิงใจดีจากร้านเช่ารถขี่นำมาส่ง เพราะเมื่อนางดูชื่อโรงแรมแล้วก็อธิบายเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เลยพามาส่งเสียเลย หลังจากขอบคุณนางแล้วเราก็บอกเค้าไปว่าจะไปใช้บริการเช่ารถในวันพรุ่งนี้ (ในใจได้แต่คิดว่าจะพยายายามหลงกลับไปที่ร้านให้ถูก เพราะว่าบาปแล้วก็จำไม่ได้ว่าร้านนั้นตั้งอยู่ตรงตรอกซอยไหนเหมือนกัน) ToT

REMINDING YOU

พุกาม ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์อยู่ห่างประมาณ 90 ไมล์ หรือ 145 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เขตเมืองเก่า (เขตที่ตั้งอาณาจักรพุกาม) เขตเมืองใหม่ (เขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน) และยองอู (เขตพาณิชยกรรมและเศรษฐกิจ)

ค่าธรรมเนียม: สามารถจ่ายได้ที่สนามบินหรือทางเข้าเมืองหากเรามาทางรถในราคา K25,000

การเดินทางโดยเครื่องบิน

สามารถเดินทางมาลงที่สนามบิน สนามบินยองอู Nyaung U ราคาค่าแท็กซี่อยู่ที่ K5,000 – K10,000 ขึ้นอยู่กับว่าเราพักอยู่ที่ไหน ซึ่งด้านหน้าสนามบินจะมีราคาแปะแสดงราคาไว้

การเดินทางโดยเรือ

สามารถเดินทางในเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ จากหรือไป มัณฑะเลย์ ใช้เวลา 9-11 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 18 – 42US$  ขึ้นอยู่กับความหรูหรา ซึ่งเรือส่วนมากจะออกจากเมืองยองอู

www.malikha-rivercruises.com

www.mgrgexpress.com

การเดินทางท่องเที่ยวในพุกามด้วย E-Bike

รถเสียที่หน้าสุสาน ที่เดิมถึงสองครั้ง

การเช่ารถ E Bike สามารถหาได้ทั่วไปหรือจะเช่าจากที่เราพักก็ได้เหมือนกัน (พนักงานโรงแรมจะโทรให้รถมาส่งที่ที่เราพัก) ราคาจะอยู่ที่ K5,000 – K15,000 แล้วแต่ระยะเวลาว่าครึ่งวัน เต็มวัน หรือจะแค่ชั่วงพระอาทิตย์ตก 

การขับขี่ในเส้นทางที่ไม่ได้ลาดยางบางช่วงเป็นทรายหรือโคลนเละหลังฝนตก ต้องระมัดระวังกันให้ดี ควรเช็คว่าระบบเบรค ไฟ หรือตัวรถไม่เก่าเกิน และควรขอนามบัตรร้านที่เราเช่าไปด้วย ในกรณีที่รถมีปัญหาระหว่างทาง ซึ่งเราก็เจอกับการเครื่องดับที่หน้าสุสานถึงสองครั้ง และในการบอกตำแหน่งที่เราอยู่ที่ไม่ใช่เส้นทางหลักเป็นเรื่องยากมาก

Thanawat: REMINDER